ผีแต้มทาบจ่าฝูง...สิ่งที่หลายคน “กลัว” มันมาถึงแล้ว
ต้องบอกว่าการทำแต้มทาบ “จ่าฝูง” ของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 เป็นการตอกย้ำผลงานชนะ 8 เสมอ 2 ใน 10 นัดได้ชัดเจนที่สุด
เราได้เห็นการเล่นบอลจังหวะเดียวในเกมรุกของ “ปีศาจแดง” ที่เหมือนเป็นคนละทีมจากในช่วงต้นซีซั่น จากที่แฟนบอลเอือมระอาจากการเล่นที่ไร้ระบบ ส่งบอลให้กันยังไม่ตรง
ตอนนี้กลับกลายเป็นการทำชิ่งจังหวะเดียวในพื้นที่แคบๆและการแกะเพรสโดยไม่ล่กเหมือนเมื่อก่อน
ประตูขึ้นนำ 1-0 เราสังเกตว่าฝั่งทีมเยือนเพรสสูงจนบอลต้องถูกสาดยาวออกมาจนกระทั่งการเล่นบอลจังหวะเดียวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด นำมาสู่การควบม้าเร็วของ AWB
ครึ่งแรก วิลล่า เหมือนยังเล่นช้าเกินไป บอลจะถูกส่งต่อเป็นทอดๆในแนวขวางซึ่งผิดกับ ยูไนเต็ด ที่การป้ายบอลจังหวะเดียวทำให้ตัวที่รับสามารถพาไปเล่นต่อโดยที่วิ่งออกตัววิ่งไปกับบอล
ซึ่งการเล่นแบบนี้ตัวที่ตามประกบเล่นยากกว่าที่ฝั่งเจ้าถิ่นตามมาร์ก วิลล่า คนละเรื่องเลยครับ
ผมเชื่อว่าใครที่ได้ดู “ปีศาจแดง” ในช่วงหลังวลี “วนลูป” เริ่มค่อยๆหายไปแล้ว ผมเชื่อว่านักเตะรู้แล้วว่าควรต้องเล่นอย่างไร การขึ้นเกมต้องเป็นในลักษณะไหน แถมความมั่นใจถูกเติมเข้ามาหลังชนะติดๆกันจนตอนนี้เหมือนน้ำเดือดที่รอวันขึ้นจ่าฝูงแบบโดดๆ
ต้นครึ่งหลังเรายังได้เห็น เด เกอา “บินได้” 2 จังหวะสวยๆจากการเซฟลูกโขกในต้นครึ่งหลังและยิงไกลช่วงทดเจ็บ
สิ่งเหล่านี้เหมือนกำลังจะบอกเราอยู่ว่าผู้เล่นของ ยูไนเต็ด ทยอยคืนมาตรฐานของตัวเองวันนี้จนเกือบครบทีมแล้วยกเว้น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่วันนี้ออกทะเลฝืนยิงลูกที่ควรจ่ายเหมือนที่เคยเป็นมา
แต่พิจารณาจากวัยและความถี่ที่กรำศึกมาอย่างหนัก การแบกภาระช่วยทีมในวันอื่นๆที่รุ่นพี่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันก็ถือว่าหยวนๆน้องกันไป
ส่วน สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ หลังเหมา 2 ในเกมเจอ ลีดส์ ก็ดูจะยวบๆและมาเจอกลาง วิลล่า ที่บ้าพลังดีดจัดจน เนมันย่า มาติช ต้องลงมาแทนตั้งแต่นาที 65 เกมของเจ้าถิ่นเลยเริ่มเอาตรงกลางอยู่
สำหรับ วิลล่า วันนี้สร้างปัญหาและป่วนทั้งกลางและหลังเจ้าถิ่นได้อย่างต่อเนื่องแต่ในจังหวะสุดท้ายยังอยู่ไม่ถูกที่ถูกเวลาและไม่มีความแน่นอน
รวมถึงการเข้าทำยังไม่หลากหลายมากพอที่จะไปทำลายแนวรับของ “ปีศาจแดง” ที่วันนี้เล่นดีทั้ง 4 ตัว
ผู้เล่นอย่าง วัตกินส์, เอล กาซี่, ตราโอเร่ และ แม็คกินน์ หรือแม้กระทั่ง ดักกล้าส ลุยซ์ มีความเร็วทุกคนเรียกว่าแทนเป็นสาย speed
แต่ทุกๆครั้งที่ขึ้นเกมส่วนใหญ่ในครึ่งแรกจะ “เอียงซ้าย” เพราะมี แจ็ค กรีลิช ประจำการอยู่ ใครได้บอลก็จะเกิดอาการเกรงใจต้องส่งให้แกซึ่งตรงนั้นบังเอิญเป็นพื้นที่เขตหวงห้ามของ อารอน วาน บิสซาก้า ที่วันนี้เล่นอย่างเอาทั้งรุกและรับ
จากที่เก่ง “รับ” แต่ “รุก” ไม่เอา วันนี้อดีตแบ็ค คริสตัล พาเลซ แกลุยอย่างมันจนได้แอสซิสต์ให้ มาร์กซิยาล โขกทำประตูในช่วงเวลาสำคัญก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 5 นาที
จุดเปลี่ยนที่กำลังจะทำให้โมเมนตั้มของเกมกลับข้างหลัง วิลล่า ตีเสมอแต่จุดโทษภายใน 3 นาทีทำให้ “ปีศาจแดง” ทำให้ทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ดักลาส ลุยซ์ เสียเหลี่ยมทำฟาว์ล พอล ป็อกบา ทั้งๆที่กฏข้อห้ามรู้กันคือในเขตโทษไม่ควรเอาแข้งไปแหย่แข้งถ้าไม่ชัวร์และเป็นจังหวะชี้เป็นชี้ตาย
หลังสกอร์เปลี่ยนเป็น 2-1 ไลน์แนวรับของ “สิงห์ผงาด” ดันสูงมากครับ คือตั้งใจแลกและใช้ดักล้ำหน้าเอาซึ่งหลายครั้งเราเห็นกันแล้วว่าอันตรายมากเนื่องจากทีมเยือนมีผู้เล่นสายลุยเล่นไม่ละเอียดอยู่พอสมควร
การเสียบอลเวลาพาขึ้นไปตรงกลางสนามเท่ากับโยนภาระให้แนวรับเพราะ ยูไนเต็ด มีตัวไวๆรอวิ่งแข่งอยู่
การแก้เกมของ ดีน สมิธ จากในครึ่งแรกคือการใช้ประโยชน์ของ กรีลิช ในเกมลักษณะนี้คือการครอสจากริมเขตโทษซึ่งเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติอังกฤษแอบไปเล่นทั้งซ้ายและขวาแทนที่จะเก็บบอลแล้วม้วนเล่นสั้นไปมา อันนั้นมันไม่มีประโยชน์
พูดถึง กรีลิช อย่างที่เขาว่ากันจริงๆครับว่าใครจะแย่งบอลจากเท้าแกได้นี่ต้องทำฟาว์ลอย่างเดียว ตีนไว เอาตัวรอดเก่งมาก
ใครมาซื้อแข้งวัย 25 ปีตอนนี้ราคาแพงมหาศาลแน่ๆ (บวกค่าสัญาชาติไปอีก 30%) ทั้งๆที่ฟอร์มมาตั้งแต่ปีสองปีก่อนเพียงแต่ดันอยู่กับสโมสรหนีตกชั้นเลยไม่เป็นจุดสนใจมากนักก่อนมาพีคสุดเอาช่วงที่ วิลล่า ติดลมบนผลงานซีซั่นนี้ดีเกินเบอร์โคตรๆ
เอาเข้าจริงวันนี้ถ้าชั่งน้ำหนักลูกทีม ดีน สมิธ ถือว่ามาต่อกรและสู้กับ ยูไนเต็ด ได้ถึงพริกถึงขิงและหาก “ปีศาจแดง” เกิดเล่นเปราะบางอ่อนแอยังไงนัดนี้โดนแน่ๆครับ
อีกคนที่ฟอร์มกลับมาได้ทันเกมสำคัญ (และทันข่าวลือที่ว่าอาจย้ายทีม ฮา) ที่ไม่ชมไม่ได้คือ พอล ป็อกบา ซึ่งมีส่วนอย่างมากทั้งรุกและรับหรือการโชว์วางบอลยาวสุดเทพ
โมเมนตั้มและความมั่นใจของฝั่ง ยูไนเต็ด ตอนนี้มาเต็มเราเห็นกันได้ทันทีจากการออกบอลแน่นๆ การกล้าเล่นในหลายๆจังหวะ
สิ่งที่ทีมหัวตารางก่อนหน้านี้เคยมี ยูไนเต็ด ก็เริ่มมีบ้างคือเมื่อ key man เล่นไม่ออกจะมีตัวอื่นรับไม้ต่อเรีกชัยชนะให้ทีมโดยไม่ต้องหวังพึ่งการแบกของ บรูโน่ หรือ แรชฟอร์ด เพียงอย่างเดียว ปัญหาคือจะทำแบบนี้ในเกมคับขันได้อีกหรือไม่
ครับหลังเก็บ 3 แต้มสบายใจเฉิบทีนี้ความสุขของเหล่า “เร้ดอาร์มี่” คือการกระดิกเท้าจกป๊อปคอร์นรับชม (แช่ง) เหล่าทีมที่ไล่หลังลงไปในสุดสัปดาห์นี้ 3 วันรวดแบบไม่ต้องเดือดร้อนอะไรแล้ว
และแน่นอนที่พลาดไม่ได้เพราะไฮท์ไลท์อยู่ที่คืนวันจันทร์เมื่อ ลิเวอร์พูล ต้องออกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน
เป็นเกมที่อันตรายสุดๆเพราะ “นักบุญ” แกระบบจ๋า มีจุดขายคือทีมเวิร์ค ใครจะโค่นลูกทีม ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล ต้องฝีมือจริงๆ
เผลอๆ “หงส์แดง” อาจถึงแพ้ด้วยซ้ำหากยังเล่นเลอะเทอะเหมือนที่ได้ 2 แต้มจาก 2 นัดหลังสุด
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนและตามคาด เราอาจอยู่ในสถานการณ์ใหม่คือ “ปีศาจแดง” มี 1 เกมในมือฟรีๆก่อนทำศึกแดงเดือดที่จะตัดแต้มกันเองในวันอาทิตย์ที่ 17 นี้...
อ่านบทความอื่น stevensyachts.com rkb-global.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น